จัตุรัสของการกระจัดกระจายสรรพสิ่ง เราถูกบีบอัด
จัตุรัสของการกระจัดกระจายสรรพสิ่ง เราถูกบีบอัด
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาหลายปี ไม่มั่นใจว่าสามปีหรือสี่ปี ผมเข้ามาอาศัยอยู่ในหอพักข้างมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับชีวิตในเมืองกรุงฯมากนัก ผมเข้ามาอย่างโดดเดี่ยว คนเดียวเดินเตร็ดเตร่ ผมเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองด้วยความจำเป็น เพราะผมอยากเรียนภาพยนตร์ ซึ่งผมไม่ได้อยากเรียนมันจริงๆหรอก แต่เพราะไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับผม ที่ตรงใจกับความชอบของผม อย่างน้อยภาควิชาภาพยนตร์มีทางเลือกให้ได้เลือกเยอะ มีเวลากว่าสองปีให้ได้ลองทำหลายๆอย่างไปเรื่อยๆ ผมชอบอ่านวรรณกรรม ในทีแรกผมคิดว่าจะเป็นคนเขียนบท
วันอาทิตย์ อากาศร้อนจัด ข้าวของเครื่องใช้ถูกเคลื่อนย้ายจากบ้านต่างจังหวัดโดยรถกระบะของพ่อ มากองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กแคบ ไม่มีเหลือพื้นที่สำหรับเดิน เป็นห้องที่จะลุกเข้าห้องน้ำต้องเอี้ยวตัวหลบเก้าอี้ โต๊ะ ตู้เย็น ถังขยะใบเล็กที่ตั้งขวาง กว่าจะได้เข้าไปปลดทุกข์ ผมเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย แค่มีพื้นที่ซุกหัวนอนก็เพียงพอแล้วสำหรับผม เมื่อข้าวของกระจุกรวมกัน ห้องที่เล็กแคบอยู่แล้วกลายเป็นไม่เหลือพื้นที่ให้ก้าวเดิน
ผมโบกมือลาพ่อที่ยืนส่งยิ้มด้วยใบหน้าปะปนกับความห่วงใย ดูแลตัวเองดีๆนะ เป็นคำพูดที่ผมถอดรหัสจากสีหน้าท่าทางของเขาก่อนที่จะขับรถออกไปอย่างไม่เต็มใจ ผมอายุเจียนจะสิบเก้าแล้วนะ ผมอยากจะบอกกับเขาผ่านมือที่โบกลา ผมแวะซื้อโค้กหนึ่งกระป๋อง จากนั้นก็กลับขึ้นห้อง
ผมรูดม่าน แสงสีตอนบ่ายสาดเข้ามาในห้อง แสงตอนบ่ายคล้ายแสงตอนเย็น มันถูกบดบังด้วยตึกสีขาวเขรอะสกปรก ผมออกไปสูดอากาศนอกระเบียง วิวที่ระเบียงช่างทำให้รู้สึกอึดอัดคับแคบ เรียกได้ว่าอึดอัดคับแคบชิบหาย แทนที่จะเป็นพื้นที่ทอดยาวโล่งที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย กลับกลายเป็นตึกหอพักข้างกันตั้งสูงชะลูดเหนือห้องที่ผมอยู่อาศัย ผมแหงนมองไปที่ยอดตึก แสงแดดทำให้ผมแสบตา ผมสูดอากาศเข้าปอดเต็มๆแต่อากาศสกปรกด้วยกลิ่นบุหรี่ที่โชยมาจากห้องข้างๆ ผมหลบเข้ามาในห้องปิดประตูกระจก และจัดข้าวของให้เข้าที่เรียบร้อย
หลังจากที่ผมใช้ชีวิตที่หอพัก ผมรู้สึกได้ว่าผมกำลังใช้ชีวิตเดินเตร็ดเตร่อยู่ในซอยสารเลวซอยหนึ่งข้างมหาวิทยาลัยที่ไม่มีทางเดินให้ไปไหนมาไหนอย่างสะดวก ถนนสี่เลนถูกใช้เป็นที่จอดรถไม่ก็เป็นร้านรถเข็นเบ็ดเสร็จหายไปแล้วสองเลน ซอยสารเลวที่เดินไปไหนมาไหนก็ถูกรถเฉี่ยวชน ผมสามารถนับครั้งได้หนึ่งอาทิตย์ที่ผมอยู่อาศัยมาผมถูกรถเฉี่ยวกว่าร้อยครั้ง ซอยสารเลวที่มีแต่กลิ่นขยะโชยตลอดทั้งซอย น้ำขยะไหลย้อยติดแห้งกรังบนพื้นถนนน่าขยะแขยง ในซอยสารเลวที่อยู่ข้างมหาวิทยาลัยแท้ๆแต่ไม่มีประตูเชื่อมต่อหากัน จะต้องเดินอ้อมไปหน้าซอยเพื่อเดินเข้ามหาวิทยาลัย ในซอยสารเลวที่มีใครก็ไม่รู้ชอบมาบิดมอเตอร์ไซด์เสียงดังตลอดทั้งคืน ในซอยสารเลวที่จะมีรถฉุกเฉินไม่ก็รถตำรวจแวะเข้ามาบ่อยครั้งที่สุด ในซอยสารเลวที่จ่ายแพงยังไงก็ไม่มีทางที่จะได้รับชีวิตที่ดีกว่า ในซอยสารเลวที่บีบบังคับให้ผมต้องใช้ชีวิตอย่างเลือกอะไรไม่ได้ ถ้าไม่อยู่ก็ไม่มีที่อื่นให้เลือกแล้ว ไม่มีสิทธิ์อะไรในจำนวนเงินที่จ่ายออกไป
ผมไม่รู้ว่าการอยู่ต่อไปจะเจอปัญหาอะไรอีกบ้าง ผมก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาหรอก เพราะผมรู้ว่าพูดออกไปมันก็ไม่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร หรือบางทีความคิดของผมอาจผิดเพี้ยนต่างออกไป เพราะผมไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองกรุงฯมากนัก มันอาจเกี่ยวข้องกับผู้บริหารตำแหน่งสูง หรือนักธุรกิจที่มีเงินก้อนจำนวนหนึ่งผูกมัดเอาไว้ ที่ไม่อยากเจียดเงินที่คาดว่าจะไม่ได้ผลกำไรมาแก้ปัญหาการอยู่อาศัยของเด็กนักศึกษา มันอาจไม่เกี่ยวข้องกันหรอก มันเป็นเพียงสมมติฐานที่ผมตั้งขึ้นเท่านั้น แต่ที่ผมพูดมามันก็ไม่เกี่ยวข้องกับผมหรอกนะครับ อยู่ไปมันก็จะชินไปเองนั่นแหละ ประเดี๋ยวผมก็หายเดือดร้อนไปเอง
ในซอยสารเลว ผมกำลังดื่นกาแฟหลังจากเสร็จสิ้นจานสเต๊ก ผมอ่านหนังสือ นิ้วละเลียดไปทีละตัวอักษร พร้อมๆกับปากที่ขยุบขยับไม่เอ่ยออกเสียง สายตาผมหลุดรายละเอียดที่ตัวหนังสือไปชั่วขณะ พลันไปสบตากับหญิงสาวนั่งคนเดียว เธอกำลังจัดการกับอาหารบนจาน โดยไม่เสียสมาธิไปสนใจสิ่งอื่น ผมเพลินกับภาพที่เห็นมาก ถึงแม้จะเสียมารยาทที่ไปจ้องมองแบบนั้น แต่สัดส่วนโครงหน้ากับทรงผมสั้นที่ตัดอย่างพอดิบพอดี เวลาที่เธอยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ปากสีแดงชุ่มช่ำปรากฏชัดในแสงสลัวของร้าน เฉกเช่นเดียวกันกับดวงตาสดใสของเธอกลมใสน่ามอง ผิวพรรณออกไปทางสีแทน และที่สำคัญคือหนังสือเบรคฟัสแอททิฟฟานี่เขียนโดยทรูแมน คาโพตี เล่มสีเขียวเล็กๆวางขนาบข้างแก้วน้ำที่มีหยดน้ำเกาะอยู่รอบแก้ว เพียงหนังสือเล่มเดียว เธอมีเสน่ห์สำหรับผมในทันที
เธอเล่าว่าเธอมาจากต่างจังหวัด ผมไม่ได้ถามลงลึกกลัวจะเสียมารยาท แค่ได้ยินว่าต่างจังหวัดผมก็เหมาว่าเราเป็นคนบ้านเดียวกันไปแล้ว เธอเป็นคนคุยสนุก เราเริ่มบทสนทนาด้วยความสนใจในหนังสือ เธอเป็นคนคลั่งหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง ทำให้ภาษาที่เธอพูดแพรวพราวมีเสน่ห์ ผมชอบนั่งคุยกับเธอ แค่ได้นั่งฟังเธอพูดจ้อก็เป็นสุข ผมบอกเธอว่าผมเพิ่งเริ่มอ่านเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นอยากลองเขียนบทภาพยนตร์ เขาแนะนำกันว่าให้อ่านวรรณกรรมจะช่วยในการคิดและเขียน หลังจากนั้นผมก็อ่านมาตลอด ผมอ่านเฮมมิ่งเวย์ในเล่มแรกของชีวิต เป็นเรื่องที่น่าขันที่ผมสนใจการใช้ชีวิตของเฮมมิ่งเวย์มากกว่าตัวนิยายของเขาเสียอีก
“ทำไมถึงอ่านคาโพทีเหรอครับ” ผมถาม
“ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษหรอกค่ะ ก็เล่มนี้ปกมันสวย มันล่อตาล่อใจก็เลยลองซื้อมาอ่าน ก็แค่นั้นเอง” เธอตอบพลางหยิบหนังสือพร้อมใช้นิ้วกรีดกรายไปแต่ละหน้า ผมคิดว่าเธออาจเหมือนกับผู้หญิงธรรมดาดาษดื่นทั่วไปที่ซื้อหนังสือเพราะปกสวย แต่เธอสิ่งที่ทำให้เธอไม่เหมือนเพราะว่าเธออ่านมันจนเจียนจะจบ เธอไม่ได้ซื้อมาประดับตู้หนังสือเพียงอย่างเดียว
“ผมชอบเวอร์ชั่นภาพยนตร์มากกว่าหนังสือ ผมเห็นฉากปาร์ตี้ในห้อง ผมเห็นแล้วอิจฉาชีวิตของคนมีกระตังทำอะไรก็ดูดีไปหมด แต่พูดเถอะฉากนั้นสนุกจริงๆมันชุลมุนวุ่นวายไปหมด แต่ผมชอบพาร์ทของสามีที่มาตามเธอกลับ ผมจำไม่ได้ว่าสามีหรือพ่อ แต่มั่นใจว่าเป็นสามี”
“คุณก็อ่านหนังสือแล้วเหรอคะ เสียดายที่ฉันยังอ่านไม่จบ แต่ฉันก็ชอบภาพยนตร์เหมือนกัน อาจเพราะเราไม่ต้องจินตนาการเสริมแต่งในความคิดมั้งคะ ตัวละครของมิสฮอลิเดย์ออกมาเด่นชัดนักแสดงก็สวยอีกต่างหาก ฉันอยากใช้ชีวิตแบบมิสฮอลิเดย์ ไม่มีข้อผูกมัดในสถานที่ใดๆ อิสรภาพที่เธอเสริมแต่งให้กับร่างกายของเธอ เป็นเหมือนกับยานพาหนะสำคัญ ฉันชื่นชมมิสฮอลิเดย์มากๆ”
เธอหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด ผมสั่งโค้กเพิ่มอีกหนึ่งกระป๋อง เธอสั่งเช่นเดียวกัน ผมยกโค้กขึ้นจิบอึกใหญ่แล้วจึงจุดบุหรี่ขึ้นสูบ มวนของเธอเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง มวนของผมเพิ่งจุดติด ความเงียบเปิดเผยในรอบสามชั่วโมง เธอคือมิสฮอลิเดย์ส่วนผมจะเป็นเฮมมิ่งเวย์ผจญไปด้วยกันกับเธอ ผมเขียนส่วนนี้ไว้ในสมุดโน้ตส่วนตัวเล่มเล็ก
หลังจากนั้นเธอชวนผมออกจากร้าน ออกจากซอยสารเลว ทิ้งก้นบุหรี่เรี่ยราดถนน เรารู้ว่ามันผิด แต่เราก็เห็นว่าทุกคนก็ทำกัน เธอจึงชักชวนให้ผมทำแบบนั้น เราจะต้องทำเหมือนกับคนที่อยู่ในซอยสารเลวหรือ เธอพยักหน้า เพราะเราอยู่ในซอยสารเลว เราจึงเป็นคนสารเลวไปด้วย ต่างอะไรกันเป็นคนดีมาจากไหนก็ถูกเหมารวมว่าเป็นคนสารเลวที่อยู่ในซอยสารเลว เธอจะห้ามคนพูดคุยเสียงดังในหอสมุดไม่ได้ เพราะที่หอสมุดเขาดังกันเป็นปกติอยู่แล้วนี่
ช่างมันเถอะ ผมจะทำอย่างที่คนในซอยสารเลวทำก็แล้วกัน แต่ในคืนนี้คืนเดียวเท่านั้น ผมบอกกับเธอ เราสองคนเดินเตร็ดเตร่จากท้ายซอยไปต้นซอย พูดคุยกันจ้อเสียงดัง เมื่อมองเธออกท่าทางการเดิน ผมสัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวา ความเป็นเธอของเธอปรากฏเด่นชัด เหมือนผู้ที่ได้รับอิสรภาพหลังจากถูกจองจำ
ตลอดระยะทางจะต้องระมัดระวังไม่ให้รถที่วิ่งไปมาตลอดทั้งคืนเฉี่ยวชน เราสนุกกับการหลบรถ บางทีเธอก็ทำเป็นถูกเฉี่ยวแล้วเรียกค่าทำขวัญจากเจ้าของรถ เธอได้เงินจำนวนหนึ่งมาซื้อขนมกินเล่นกัน เราสั่งยำจากร้านหนึ่งที่บ่นกับวินมอไซด์ตลอดเวลาเรื่องเด็กที่มาบิดรถเสียงดัง สั่งโรตีจากร้านที่ลุงคนขายมีบาดแผลเต็มหน้า ลุงบอกว่าเมื่อคืนมีเด็กตีกันแล้วเอาเก้าอี้ของลุงฟาดมั่ว ลุงเป็นผลพวงจากลูกหลง สั่งน้ำมะพร้าวปั่นจากลุงอ้วนใจดี เรากินกันจนหนำ สูบบุหรี่ต่ออีกมวน ทิ้งขยะลงถังที่พูนล้น เดินเตร่ไปจนถึงคอนโดของเธอซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
ผมโบกลาเธอพร้อมกับบอกว่าคืนนี้เธอเป็นมิสฮอลิเดย์ ถ้าเธอเป็นมิสฮอลิเดย์จริง เธอจะออกเดินทางครั้งหน้าเมื่อไหร่ เธอยิ้มให้ผมไม่พูดอะไร เธอหยิบแผ่นกระดาษเล็กๆเขียนบางอย่างลงไป ผมรับกระดาษแผ่นนั้น มองใบหน้าเธอที่น้ำตาไหลรินอย่างช้าๆ
“ก็ต่อเมื่อฉันสามารถกางปีกโบยบินในสถานที่ๆเป็นของฉันจริงๆ”
สถานที่ๆเป็นของเธอจริงๆ ผมคิด มันก็คงเป็นสถานที่เดียวกันกับที่ผมฝันเอาไว้
เช้าต่อมา ผมตื่นเช้าตรู่ เงี่ยหูฟัง ในซอยสารเลวเงียบเหมือนป่าช้า ไม่มีการขยับเขยื้อนของสรรพสิ่งใดๆ ผมชอบเวลานี้จังคงเป็นเวลาเดียวที่ผมอยู่ในซอยนี้แล้วมีความสุข ผมหยิบหนังสือที่อ่านค้างเอาไว้ มีกระดาษโน้ตแผ่นเล็กคั่นหน้าเอาไว้ เป็นโน้ตแผ่นเดียวกับที่เธอเขียนให้ผมเมื่อสัปดาห์ก่อน ผมมองเห็นความทุกข์ของเธอผ่านข้อความที่ขีดเขียน แม้เธอจะมีเงินแยะ แต่ก็ไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อให้ไม่ต้องอยู่ในซอยสารเลวได้ ผมปลอบเธอว่า ที่นี่แค่ไม่ใช่ที่ของเธอก็เท่านั้น
ผมอ่านหนังสือจบเล่มพอดี เสียงท้อคำรามดังออกมา ในซอยสารเลวตอนเช้าไม่มีร้านข้าวร้านไหนเปิดก่อนสิบโมง ผมจะต้องเข้าเซเว่นเพื่อกินอาหารสารเลวแช่แข็ง ผมหยิบโค้กในตู้แช่หนึ่งกระป๋อง เดินไปจ่ายเงินซื้อบุหรี่เพิ่มอีกซอง หนังสือพิมพ์อีกฉบับ ผมขอเงินทอนเป็นเหรียญสิบเพราะจะไปซักผ้า ไม่วายถูกพนักงานมองค้อนอย่างไม่พอใจ พนักงานยื่นเหรียญ ผมยิ้มรับและเดินออกมา
บ่าย อากาศร้อน ผมไม่รู้จะทำอะไร จึงตั้งใจแวะไปหามิสฮอลิเดย์ ผมไม่รู้ว่าเธออยู่ห้องไหน ผมจึงถามกับรปภ. ที่ยืนเฝ้า เขาส่งวิทยุไปตรวจเช็ค แล้วจึงบอกกับผมว่า “เธอย้ายไปตั้งแต่ก่อนเช้าพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เธอทิ้งโน้ตไว้ใบหนึ่งระบุชื่อว่าเฮมมิ่งเวย์” ผมบอกว่าผมเองคือเฮมมิ่งเวย์ ผมตกใจมากที่เธอย้ายหายไป
“อยู่ในระหว่างการเดินทาง มิสฮอลิเดย์ ฝากถึงเฮมมิ่งเวย์”
Comments