top of page

อ้อมแก้ว กัลยาณพงศ์ หลายสิ่งที่คุณอยากจะทราบ


 

หลายสิ่งที่คุณอยากจะทราบ เกี่ยวกับ อ้อมแก้ว กัลยาณพงศ์ นักเขียนสาวรุ่นใหม่ผู้มีผลงานนวนิยายเล่มล่าสุด "อีกไม่นานเราจะสูญหาย" ซึ่งเป็นนวนิยายที่จะพาผู้อ่านเข้าสู่โลกของการสูญหายตัวตน นวนิยายเล่มนี้ไม่เพียงแต่ใช้ภาษาที่ดีและงดงาม แต่ยังกระชากให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงโลกและสังคมยุคใหม่ อ้อมแก้ว ไม่เพียงแต่ต้องการทำให้นวนิยายของเธอเป็นเพียงการปลอบประโลมใจ หรือมองโลกในแง่ดี แต่เธอทำให้ผูอ่านได้ตระหนักถึงโลกและความเจบปวดที่แท้จริง ลองอ่านบทสัภาษณ์นี้เพื่อรู้จักตัวเธออีกด้านจากนวนิยาย

 

อ้อมแก้ว กัลยาณพงศ์

เล่าประวัติคร่าวๆ ให้ผู้อ่านรู้จัก

ตอนนี้เป็นฟรีแลนซ์ ทำคอลัมนิสต์ให้กับเพลย์บอยแม็กกาซีน เขียนคอลัมน์womenเกี่ยวกับความคิดความเห็นเรื่องไลฟ์สไตล์ สังคม หรืออะไรที่น่าสนใจ น่าพูดถึง คอลัมน์ Travel เกี่ยวกับการเดินทาง แล้วก็คอลัมน์ fiction เป็นเรื่องสั้นที่เราอยากเขียนไม่จำกัดแนว ส่วนที่ผ่านมาก็เคยผ่านการทำงานในวงการศิลปะบ้าง เป็นคิวเรเตอร์ ผู้ช่วยคิวเรเตอร์บ้าง แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว หลักๆ ตอนนี้ทำงานเขียน จัดการเรื่องงานของที่บ้าน แล้วก็มีการจัดสรรเกี่ยวกับเรื่องลงทุน


ในฐานะที่เคยมีโอกาสทำงานเป็นคิวเรเตอร์ อยากทราบว่าศิลปินในดวงใจมีใครบ้าง เพราะอะไร

ต้องออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้มีความรู้ด้านศิลปะเยอะมากขนาดนั้น ดูตามความชอบกับการปะทะความรู้สึกเป็นหลัก ในดวงใจก็ Monet / Picasso / Van Gogh / Rodin แล้วก็ชอบงานบางชิ้นของ Ary Scheffer / Gustave Dore / Camille Corot เพราะมันมีพลังและเต็มไปด้วยความรู้สึกมากชนิดที่เรียกว่ามาปะทะภายในของเรา ถ้าศิลปินไทยก็ต้องชอบงานพ่อตัวเองสิ เชียร์กันเอง ส่วนของศิลปินรุ่นใหม่ไม่มีที่เรียกว่าในดวงใจ แต่ชอบงานของพี่เจ้ย-อภิชาติพงศ์ และคุณพิเชษฐ์ กลั่นชื่น แล้วก็มีผลงานของปานพรรณ ยอดมณี มันมีทั้งเรื่องราวและเรื่องเล่า มีวิธีการผสมผสานบริบทความเป็นไทยกับงานสมัยใหม่โลกใหม่ได้อย่างลงตัวน่าสนใจ ทำให้เราอิน งานของนักรบ มูลมนัสก็เป็นกราฟฟิคที่น่าสนใจ


เริ่มเขียนตอนไหน

จริงๆ ชอบเขียนมาตั้งแต่เด็กๆ เคยได้รางวัลด้วย แต่พอโตมาก็เรียนสายสามัญที่เน้นการเรียนการสอนทำให้เราไม่ได้ไปโฟกัสด้านนั้น ต่อมาช่วงเรียน ป.ตรี มีโอกาสได้รับคัดเลือกให้ร่วมโครงการนักเขียนของ Orange Friend (ปัจจุบันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น True) ก็เขียนเกี่ยวกับเรื่องความคิดความเห็นในสังคมลงเว็บไซต์ ตอนนั้นก็จะฮาร์ดคอร์หน่อย สายโหด แล้วก็เคยลองส่งเรื่องสั้นไปลง a day อยู่เรื่องหนึ่ง พอเรียนจบปริญญาตรีไม่ได้ทำงานด้านเขียนเลยเพราะไปเป็นพวกกราฟิกดีไซน์เนอร์ เป็นครีเอทีฟ พอมาเรียนต่อปริญญาโทก็ไปสายการบริหารจัดการด้านศิลปะ อย่างล่าสุดก่อนหน้านี้มีลองส่งประกวด ก็ได้รางวัลชนะเลิศ “เที่ยวเขียนไทย” ซึ่งเป็นรางวัลของนิตยสารสกุลไทยร่วมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่วนเล่มล่าสุดที่กำลังจะตีพิมพ์นี่เขียนมานานแล้ว แต่เก็บไว้ ขัดเกลาไปเรื่อยจนรู้สึกว่าจะมัวแต่เก็บไม่ได้แล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง


หนังสือเล่มแรกที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนไม่มี ส่วนเล่มที่ชอบตอนนี้นึกถึง "100 ปีแห่งความโดดเดี่ยว" รู้สึกว่ามัน surreal ดี


ผลงานที่ผ่านมา หนังสือที่ตีพิมพ์

เล่มแรก "พ่ออังคารผู้มาจากดาวโลก" อันนี้เขียนเกี่ยวกับตัวเองและพ่อ คือคุณพ่อเขาเป็นศิลปินแห่งชาติแล้วก็เป็นกวีซีไรต์ด้วย เราก็เลือกหยิบมุมมองที่คนอื่นไม่เคยเห็น ไม่เคยรับรู้มาก่อน เล่าในแง่มุมของลูกสาวให้คนได้เห็นอีกมิติหนึ่งของ อังคาร กัลยาณพงศ์ จากนั้นก็มีเล่มได้รับรางวัลชนะเลิศ “เที่ยวเขียนไทย” ชื่อ "เงาลับจากปลายป่า" ส่วนเล่มล่าสุดกำลังจะตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม นอกนั้นก็เป็นบทความเกี่ยวกับศิลปะเล็กๆ น้อยๆ ไม่สำคัญอะไร


งานเขียนของคุณให้อะไรกับคนอ่าน

คนอ่านจะได้อะไรก็แล้วแต่เขา ขึ้นอยู่กับจะตีความอย่างไร เหมือนกับงานศิลปะนั่นล่ะ บางทีคนมาดูงานศิลปะก็ได้อะไรกลับไม่เหมือนกัน ชอบไม่ชอบ เข้าใจไม่เข้าใจ ก็ปล่อยให้เป็นอิสรเสรีของคนอ่านไป


แรงบันดาลใจในการเขียน
แรงบันดาลใจก็คงมาจากตัวเองนี่ล่ะเพราะรู้สึกว่าตัวเองมีเรื่องราวในหัวเยอะ ชอบคิดชอบจินตนาการ ชอบอ่านข่าวสารหรือเรื่องราวต่างๆ แล้วเอามาผูกโยงไปเรื่อย เป็นคนฟุ้งมาก เมื่อเรื่องในหัวมันเยอะเลยคิดว่างานเขียนเหมาะกับเรามากที่สุด เพราะมันเป็นการจัดการกับความฟุ้งในตัวเอง


เขียนอย่างเดียวไหม

ตอนนี้ก็มีจัดการงานของคุณพ่อ ทำพวก Archives ไว้ก่อนเท่าที่พอจะทำได้เผื่อในอนาคตจะได้พร้อมสำหรับพิพิธภัณฑ์ เน้นแล้วก็ลงทุนทางการเงินนิดหน่อย จริงๆ ที่ผ่านมาทำงานหลายอย่าง กราฟิกดีไซเนอร์ โปรดิวเซอร์ ครีเอทีฟ กราฟิกดีไซน์เนอร์ อาจารย์พิเศษ ภัณฑารักษ์นิทรรศการศิลปะ ผู้ช่วยภัณฑารักษ์ ผู้ประสานงานนิทรรศการ คอลัมนิสต์ อันนี้เท่าที่จำได้นะ แต่หลังๆ ไม่ได้ทำเลย อนาคตก็ค่อยว่ากัน ขยับขยายทิศทางตัวเองไปเรื่อย


สุดท้ายแล้วชอบงานแบบไหนมากที่สุด

ชอบเหรอก็ชอบทุกงานนะ แต่ละอย่างมันโอเคและสนุกหมดเลยอย่าง ชอบเป็นอาจารย์เพราะชอบสอน ทำงานในวงการศิลปะก็สนุกเพราะได้เจอคนเยอะ ได้คิดวางแผนสร้างสรรค์ร่วมกับศิลปิน หอศิลป์ แกลเลอรี พิพิธภัณฑ์ สื่อมวลชน ผู้ชมงาน ไปงาน ปาร์ตี้ มีที่ไม่ชอบคืองานออกแบบกราฟฟิคนี่ล่ะเพราะมันต้องทำตามโจทย์ของลูกค้า วุ่นวาย แก้งาน ส่วนงานเขียนนี่ไม่ต้องพูดอะไรมากมายเพราะเป็นความชอบของเรา ได้อยู่กับมัน พูดคุย ทะเลาะกับตัวอักษร แต่ช่วงนี้ก็ว่าจะเริ่มหาอย่างอื่นทำเพิ่มเพราะเราเป็นคนอยู่นิ่งนานไม่ได้ ขี้เบื่อ ทำงานเขียนอย่างเดียวมันก็เบื่อ ส่วนตัวเป็นคนชอบเดินทาง ชอบเจออะไรใหม่ๆ เรียนรู้ไปเรื่อย


วางอาชีพการเขียนในอนาคตอย่างไรบ้าง

ก็อยากมีงานพิมพ์ออกมาเรื่อยๆ ทำให้มันดีขึ้น ปัจจุบันมีนักเขียนเยอะมากขึ้น มีฝีมือ คนอ่านมีทางเลือกมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็ทำให้ดีที่สุดแล้วกันในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง พัฒนาให้มันดีขึ้น จะให้มันดีขึ้นก็ต้องฝึกฝน สังเกต ทำอย่างต่อเนื่อง


ในนวนิยาย ‘อีกไม่นานเราจะสูญสลาย’ เขียนถึงเรื่องดนตรีด้วย มีวงดนตรีชื่นชอบเป็นพิเศษบ้าง

น่าจะเกือบร้อย เราเป็นคนชอบหลากหลายแนวมาก แต่ถ้านับวงที่ชอบ ขออนุญาตพูดเกือบทุกวงได้ไหม ถ้ายุคเก่าก็ Gun n’ Roses / WING ที่มี Paul McCartney / Carole King / ELO (Electronic Light Orchestra) / Simon and Garfunkel / Satie / MJ (Michael Jackson) / Phoenix / Arcade Fire / / Radio Dept. / Amy Winehouse / Lana Del Rey รุ่นใหม่ก็ Cigarette after Sex / Roosevelt / Tycho / M83 ล่าสุดฟัง Sigrid ชอบมาก เอาเท่านี้ก่อนดีกว่าไม่งั้นมันจะเยอะเกินไป

Comments


Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page