top of page

คืน 30องศา กลางธันวา หน้าหนาว



"คุณชอบวง Suede หรือเปล่าครับ"


ใครสักคนเอ่ยขึ้นมาเบาๆอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เสียงของเขาบางเบาจนแทบจับใจความไม่ได้ แต่เป็นผมอย่างไม่ต้องสงสัยเลยที่เขากำลังคุยด้วย เพราะนอกจากเราสองแล้วบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ตรงนี้ก็ไม่มีใครที่ไหนอีก


"สำหรับผมแล้วชอบมากทีเดียว แต่ก็ยังคงชอบน้อยกว่าวง Pulp น่าเสียดายที่ผลงานของวง Pulp นั้นหาฟังได้ยากเหลือเกินในโลกทุกวันนี้"


เขายังคงพูดต่อโดยที่ไม่ได้หันมามองผม ไม่แม้จะสนใจเลยด้วยซ้ำว่าผมฟังสิ่งที่เขาพูดอยู่หรือเปล่า


ก่อนหน้านั้น ผมเพียงแค่อยากจะหาอะไรดื่มเพื่อแก้เหงาในค่ำคืนที่แสนประหลาด เพราะถึงแม้จะเป็นกลางเดือนธันวาคมแล้วก็ตาม แต่อุณหภูมิกลับร้อนผิดปกติ ร้อนจนอยากหาอะไรเย็นๆกระแทกปาก จึงตัดสินใจมานั่งดื่มที่บาร์แห่งนี้ บาร์เล็กๆตั้งอยู่ชานเมืองกรุงเทพฯเก่าและแฝงตัวอยู่ในร้านขายแผ่นเสียงอีกที จุดเด่นของที่นี่คือมีดนตรีสดให้ดูทุกวัน วันละ 1-2 วง ที่สำคัญใครที่หลงรักดนตรีจากฝั่งอังกฤษในช่วงโลกยุค 90' ต้องหลงรักที่นี่ได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะเหมือนเป็นการจำลองโลกในยุคนั้นเอาไว้


"ทั้งสองวงเป็นหนึ่งในหลายๆวงที่ผมหลงรักเลยก็ว่าได้ แต่ในยุคสมัยเช่นนี้อาจทำให้เราหาผลงานเหล่านั้นฟังได้ยากเต็มที" ด้วยไม่อยากเสียมารยาท ผมจึงตัดสินใจตอบออกไป


"นั้นสิครับ น่าเสียดาย" เขาพยักหน้ารับ สายตาจับจ้องไปที่หน้าเวที


"ขอโทษนะครับ คุณเป็นนักสะสมแผ่นเสียงรึเปล่าครับ ดูคุณจะรู้เรื่องเพลงมากพอสมควรเลย" ผมถาม


"เปล่าครับ ผมเป็นมือปืน" เขาตอบมาหน้าตาเฉย


คำตอบทำเอาผมอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งถึงกับต่อบทสนทนาไม่ถูก ผมจึงเลือกที่จะนั่งเฉยๆแม้จะมีคำถามมากมายอยู่ในใจก็ตาม


"ดูเหมือนคุณจะไม่เชื่อ" เขาพูดด้วยอาการปกติ สายตานิ่งและยังคงมองตรงไปที่เวทีตลอดเวลา


"ก็ไม่เชิง เพียงแต่... ผมรู้สึกตกใจนิดหน่อย"


"คุณคงไม่กำลังกลัวผมอยู่ใช่ไหม"


"ก็ไม่แปลก จู่ๆคุณมาบอกว่าเป็นมือปืน คงไม่มีใครนั่งคุยกับมือปืนด้วยอาการปกติได้"


"ทำไมคุณถึงกลัวผม" ตอนนี้เขาหันหน้ามาที่ผม


"เป็นธรรมดา เพราะอาชีพที่คุณทำมันคือการฆ่าชีวิตผู้อื่น"


"ถ้าอย่างนั้น คุณก็หมดกังวลไปได้เลย ผมไม่มีเหตุผลที่ต้องฆ่าคุณ อาชีพผมคือฆ่าก็จริง แต่ไม่ใช้ทุกคนที่ผมต้องฆ่า ฆ่าแล้วไม่ได้ค่าจ้างผมไม่ทำ"


“แปลว่าถ้ามีคนจ้างคุณให้ฆ่าผม คุณก็จะทำ”


“ไม่เสมอไป ผมชอบคุณผมอาจจะไม่รับงาน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ถูกฆ่า มือปืนไม่ได้มีผมคนเดียวเสียเมื่อไร” เหมือนจะมีรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าเขา แต่ก็เพียงแว๊บเดียวเท่านั้นเอง มันเร็วจนเกือบจะไม่ทันได้สังเกต


เราทิ้งค้างบทสนทนาไว้เพียงแค่นั้นแล้วหันความสนใจกลับไปสู่เวที แต่ผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก มันไม่ตลกเลยที่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆเป็นมือปืน แม้เขาจะดูไม่แตกต่างจากคนปกติเท่าไร และดูจะกลมกลืนไปกับผู้คนเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นมือปืนอยู่ดี


"ขอโทษเถอะครับ ทำไมคุณถึงเลือกที่จะคุยกับผม คุณไม่กลัวว่าผมจำหน้าคุณได้หรือ"


ผมตัดสินใจถามออกไป เขาหันมามองผมอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาจ้องอย่างตั้งใจ


"ไม่มีอะไรมาก ผมแค่รู้สึกอยากคุยกับคนที่ดูเหมือนจะมีอะไรคล้ายๆกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรสนิยมทางดนตรี ก็แค่นั้น"


ผมเงียบไปอีกครั้ง


............


"คุณกำลังคิดอะไรอยู่" เขาเป็นฝ่ายถามบ้าง


“ผมเพียงกำลังตั้งข้อสงสัย เพราะดูยังไงคุณก็ดูไม่เหมือนมือปีนเลยสักนิด”


“คุณอาจซึมซับบุคลิกของมือปืนจากในหนังมามากเกินไป มือปืนไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย เป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่ง”


"คุณกำลังจะบอกว่า มือปืนก็เป็นเหมือนคนธรรมดาๆทั่วไปอย่างนั้นหรือครับ"


"ใช่ครับ สิ่งที่ผมทำก็แค่ทำในสิ่งที่หลายๆคนไม่อยากทำ เท่านั้นเอง"


"หมายความว่า?"


"ทุกครั้งที่ผมทำงาน ทุกอย่างจะถูกจัดวางเอาไว้หมดแล้ว หน้าที่ผมมีเพียงแค่ลั่นไกเท่านั้น มันไม่ต้องใช้ความสามารถพิเศษอะไรมากมาย นอกจากความกล้าที่ไร้ซึ่งสามัญสำนึกและไร้ความรู้สึกผิดชอบใดๆ"


เป็นอีกครั้งที่คำตอบของเขาทำให้ผมอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก


ขณะนั้นเองการแสดงบนเวทีก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย นักดนตรีกำลังเล่นเพลง ‘Friday I am in love’ ของ ‘The cure’ เราสองคนหยุดคุยแล้วหันกลับไปสนใจบนเวทีอีกครั้ง เมื่อสิ้นเสียงเพลงนักร้องนำก็กล่าวคำล่ำลา


"ผมคงต้องขอตัวไปทำงานก่อน" เขาหันมาบอกผมพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่หน้าเวที


แต่ก่อนที่จะทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ร่างนักร้องนำสุดหล่อล้มลงจมกองเลือด สาวที่นั่งอยู่โต๊ะด้านข้างกรีดร้องดังลั่น พร้อมผวาเข้าหาร่างที่ไร้วิญาณ เขาเก็บปืนอย่างใจเย็นแล้วเดินมาทางผมช้าๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใบหน้าที่เฉยชายังคงสงบนิ่ง เขายิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรพร้อมกล่าวเบาๆ


"ยินดีที่ได้รู้จักครับ หวังว่าเราคงจะได้พบกันอีก"


ก่อนเดินจากไปเงียบๆ ทิ้งผมไว้กับความโกลาหลและความสับสนในใจ กลางเดือนธันวาในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว แต่ตอนนี้ผมรู้สึกหนาวขึ้นมาจนจับขั้วหัวใจเลยทีเดียว

1 Comment


Admin
Admin
Jan 19, 2018

ความเงียบในความโกลาหล บทเพลงยุค 90 และความแปลกแยก

Like
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page