ถึงคุณ..คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย
“คุณไม่มีวันรักกะหรี่อย่างฉันหรอก”
เธอกล่าว ก่อนจะสูดควันบุหรี่ที่เสียบอยู่ระหว่างนิ้วมือเรียวยาวคู่นั้น
และส่งมวนบุหรี่ที่เปื้อนลิปสติกสีแดงจัดจ้านกลับคืนมาให้ผม
เรามักจะร่วมรักกันผ่านมวนบุหรี่ทุกครั้งที่เราพบกัน
กลิ่นห้องอับชื้นจางๆ ผสมปนเปไปกับกลิ่นควันบุหรี่อันเป็นเสมือนคราบน้ำกามที่เราต่างร่วมกันพลั่งพลูมันออกมา
กลิ่นที่ผมคุ้นเคย
ผมรับบุหรี่จากเธอ
“แล้วคุณหล่ะ เคยหลงรักผู้ชายที่....?”
ผมถามแบบไม่จบประโยค และแน่นอน เธอเข้าใจดี
เธอแค่นหัวเราะออกมา ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจที่จะตอบ
ผมยกบุหรี่ในมือขึ้นสูบ ค่อยๆใช้สายตาลูบไล้ไปที่เรือนร่างเกือบเปลือยเปล่าตรงหน้า
“ตอบผมสิ” ผมเร่งเร้า
เธอเงียบ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ผมแทนคำตอบ
ก่อนจะลุกขึ้นมาหยิบฉวยเอาบุหรี่ในมือผมไปสูบ และบดขยี้มวนบุหรี่ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“คุณซื้อฉันมาแค่สองชั่วโมงนะ ฉันไม่มีเวลามาเล่นตอบคำถามกับคุณมากมายนักหรอก”
เธอขยับตัวเข้ามาใกล้ ทิ้งตัวลงนั่งตักผม
“คุณคิดว่าผมจะจ่ายเพื่อให้คุณอยู่กับผมต่อไม่ได้เหรอ” ผมเริ่มยียวนเธอ
ในขณะที่ผมเอาแต่พูด นิ้วมือเรียวยาวทั้งห้าของเธอก็กำลังวิ่งเล่นซุกซนไปทั่วร่างกายของผม
“แล้วคุณไม่คิดบ้างเหรอ ว่าฉันไม่ได้มีนัดกับคุณแค่คนเดียว”
เธอค่อยๆขยับตัวลงคุกเข่ากับพื้นอย่างเชื่องช้า
สายตาผมจ้องหญิงสาวตรงหน้า หญิงสาวที่ตอนนี้เธอกำลังเล่นสนุกกับลำลึงค์ของผมอย่างบ้าคลั่ง
ผมหลับตาลงช้าๆ เริ่มหายใจหอบและเผลอร้องครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
—————
ฉันกำลังนั่งละเลงเครื่องสำอางราคาถูกลงบนใบหน้า
มองผ่านกระจกไป เห็นร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มสลบไสลไปอย่างหมดท่า
นาฬิกาปลุกของฉันแผดเสียงร้องลั่น มันกำลังส่งสัญญาณว่าเวลาของชายหนุ่มกำลังจะหมดลง
เขาลืมตาตื่นขึ้นจากนิทรา ฉันหันหน้าไปมองเขาอย่างสมเพช หัวเราะออกมาเบาๆ
ไม่มีใครดูดีหลังมีเซ็กส์หรอก ยกเว้นแต่ในหนังในละคร
“คุณจะไปแล้วเหรอ” เขาถามฉันทั้งๆที่ยังงัวเงียและส่งรอยยิ้มใสซื่อมาให้ฉัน
ฉันลุกไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียงมาดูเวลา
“อีกยี่สิบนาที”
—————
สี่ทุ่มห้าสิบ อาการรถติดของกรุงเทพฯยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น
ผมขับรถออกมาจากสถานที่ลับที่ผมคุ้นเคย
เธอไปแล้ว ไปทั้งๆที่คราบน้ำกามยังคงทิ้งร่องรอยเปรอะเปื้อนอยู่ทั่วร่างกายของเราทั้งสองคน
—————
บ่ายวันหนึ่ง เสียงโนติฟิเคชันโทรศัพท์ผมดังขึ้น
ผมเหลือบไปมอง และรีบคว้ามันขึ้นมาอย่างตกใจ
ข้อความที่ผมไม่เคยคาดคิดจากคนที่ผมไม่คาดคิด
‘เธอ’
—————
“คุณไม่มีวันรักกะหรี่อย่างฉันลงหรอก”
ฉันเป็นกะหรี่ ใครๆก็ชอบบอกว่าผู้หญิงอย่าฉัน เป็นแค่คนไม่มีทางเลือก
อาจจะใช้ได้กับคนอื่น แต่กับฉัน ฉันเลือก ฉันเลือกที่จะเป็นกะหรี่
—————
เย็นวันนั้น ผมออกจากออฟฟิศก่อนเวลาและรีบเหยียบรถไปยังห้างฯใจกลางเมือง
ผมยังประหลาดใจไม่หาย ทำไมเธอถึงอยากพบผม
ความรู้สึกทั้งดีใจและกลัวเริ่มปนเปกันไปหมด
เธอนัดผมที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ร้านกาแฟที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาลงหลักปักฐานกันอย่างเนืองแน่น จนไม่เหลือที่ว่างพอให้ผมกับเธอ
ผมตัดสินใจย้ายที่นัดพบของเราไปยังร้านอาหารเงียบๆแห่งหนึ่ง
ผมสั่งอาหาร และนั่งรอเธออย่างจดจ่อ
—————
ฉันหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านอาหาร
มองเข้าไปด้านใน เห็นแผ่นหลังกว้างใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ฉันคุ้นเคย
‘เขา’
—————
ผมนั่งละเลียดไวน์ในแก้วอย่างเฉื่อยชา
เสียงรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งค่อยๆเข้ามาใกล้ เสียงฝีเท้าที่ผมคุ้นเคย
เธอทักทายผมด้วยการจับและลูบที่ต้นคอ
“ไวน์ในแก้วไม่ถูกปากคุณรึไง ?” เธอแซ็ว
ผมสะดุ้งตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่งสัญญาณสั่งบริกรหนุ่มมารินไวน์ให้เธอ
เธอส่งยิ้มให้ผม รอยยิ้มของเธอวันนี้ผิดไปจากรอยยิ้มที่ผ่านมาที่เธอเคยให้ผม
“ทำไม...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค
“ฉันว่าแล้วว่าคุณต้องถาม” เธอยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมาให้ผม
ถ้านี่เป็นกลเกมอะไรสักอย่าง ผมคงเดาเธอไม่ถูกและแพ้เธอราบคาบ
“วันนี้คุณสวย สวยกว่าทุกครั้งที่เราเจอกัน” ผมเอ่ยปากออกไปตามที่ผมคิด
เธอยิ้ม ยกแก้วไวน์ขึ้นชนกับแก้วของผม ก่อนจะยกดื่มอย่างละเมียดละไม
รอยลิปสติกอ่อนๆถูกประทับลงที่แก้ว
“คุณสวยจริงๆนะครับ สวยจนทำผมประหม่า”
“ฉันแต่งตัวมาเอาใจคุณหน่ะ ฉันก็แค่แต่ตัวตามตำราที่คุณเคยสาธยายให้ฉันฟังเมื่อนานมาแล้ว”
เธอแกว่งแก้วไวน์ไปมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ลืมแล้วเหรอ คุณเคยบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงแต่งตัวจัดจ้านแบบที่ฉันเป็น”
ผมใช้สายตาสำรวจเรือนร่างสตรีเบื้องหน้า
ชุดเดรสเรียบสีดำ ใบหน้าที่ถูกแต่งเติมบางเบาอย่างตั้งใจ สร้อยคอและต่างหูเล็กๆที่เข้าชุดกันเป็นอย่างดี
“ถ้างั้นคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะห้ามไม่ให้ผมเอ่ยปากคุณเป็นครั้งที่สาม”
ผมยกแก้วขึ้น “คุณสวยมากๆ ขอบคุณนะครับ”
เธอยิ้ม ยกแก้วขึ้นชน ก่อนจะดื่มไวน์ในแก้วนั้นจนหมด
“อย่าหาว่าผมเร่งคุณนะ แต่ผมอาจจะเป็นบ้าไปก่อน ถ้ามัวแต่รออยู่ฝ่ายเดียว”
“วันนี้คุณนัดผม มีอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ”
ผมเริ่มกินอาหารตรงหน้าอย่างเชื่องช้า
“นี่คุณสุภาพกับผู้หญิงที่แต่งตัวถูกจริตกับคุณทุกคนแบบนี้รึเปล่า?” เธอตอบผมด้วยคำถาม
“ที่ผ่านมาผมหยาบคายเหรอ”
เธอหัวเราะออกมา
“ก็ไม่เชิง แต่คุณดูสุภาพจนแปลก เป็นอะไรไปรึเปล่า”
ผมเผลอมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างอ่อนโยนแบบที่ผมไม่เคยทำมาก่อน
“เปล่าครับ”
—————
“ฉันไปบ้านคุณได้ไหม?”
ฉันถาม ในขณะที่เรากำลังร่วมรักผ่านบุหรี่มวนเดียวกัน
สีหน้าแปลกใจของเขาผุดออกมาอีกครั้ง
“ได้สิ” เขาตอบสั้นๆ สูบบุหรี่และมองออกไปที่ด้านนอกลานจอดรถ
—————
การกลับบ้านของผมแปลกไป ทั้งๆที่ผมก็ใช้เส้นทางเดิมที่เคยมาทุกวัน
ผมไม่ปฏิเสธ และไม่ได้ถามเหตุผลว่าทำไมเธอถึงอยากไปบ้านผม
Desperado, why don't you come to your senses
เสียงเพลงในรถผมค่อยๆดังขึ้น
เธอฮัมเพลงตาม และเอื้อมมือมาปรับเสียงเพลงให้ดังขึ้น
“เพลงโปรดผม”
เธอยิ้ม ไม่ตอบอะไร แต่ร้องเพลงนั้นตามด้วยเสียงที่ดังขึ้น
เราถูกขังอยู่ในรถประมาณหนึ่งชั่วโมง
“คุณจะดื่มอะไรไหม ใกล้ถึงบ้านผมแล้ว”
เธอส่ายหัวแทนคำตอบ
—————
ผมเลี้ยวรถเข้ามาจอดในคอนโดซอมซ่อของผม
เธอก้าวลงจากรถ สำรวจสายตาไปรอบๆ
ผมพาขึ้นลิฟต์ มุ่งหน้าสู่รังที่พักของผม
“แค่คอนโดเก่าๆ คุณคงไม่ได้คาดหวังอะไรใช่ไหม?”
“มีเตียงให้นอน มีบุหรี่ให้สูบก็พอแล้ว”
ผมหยุดอยู่ที่หน้าห้องขนาด 35 ตารางเมตร
เปิดประตูและเชื้อเชิญหญิงสาวแปลกหน้าที่คุ้นเคยเข้าไปด้านใน
สายตาของเธอยังสำรวจมองไปรอบๆ
ผมชอบเธอในตอนนี้เหลือเกิน ช่างไร้เดียงสา
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณยังโสด”
“จริงๆผมอาจจะให้ลูกเมียผมอยู่ที่บ้านอีกหลังก็ได้นะ” ผมหยอกล้อเธอ
“ไม่มีทาง” เธอหัวเราะออกมาอย่างรู้ทัน
เธอเดินตรงไปที่ชั้นหนังสือของผม ชั้นหนังสือที่ไม่เป็นระเบียบ
“คุณชอบอ่านหนังสือเหมือนกันเหรอ แปลก” ผมถาม
“คุณคิดไม่ถึงหล่ะสิ ว่ากะหรี่อย่างฉันจะชอบอ่านหนังสือกับเขาด้วย”
เธอหยิบหนังสือออกมาหนึ่งเล่ม
“เปล่าๆ ผมไม่ได้ว่าคุณแบบนั้น เพียงแค่ในชีวิตผมยังไม่เคยเจอใครที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันเลย”
The Catcher in The Rye. เธอยื่นมาให้ผม
“ฉันชอบเล่มนี้”
“ผมให้คุณ ที่ระลึกที่คุณมาบ้านผม”
ผมหันหลังให้เธอ ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อออก
“ฉันสูบบุหรี่ได้ไหม”
ผมพยักหน้าตอบ
เธอจุดบุหรี่สูบ และยื่นมาใส่ปากผมเช่นเคย
“ฉันจะเลิกเป็นกะหรี่แล้วนะ”
ผมตกใจ “ทำไม?”
“ไม่มีเหตุผลอะไรหรอก ฉันแค่อยากเลิก เหมือนคนทำงานที่อยากลาออกจากงาน”
ผมนิ่งไป
“เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกนะ หลังจากนี้” เธอกล่าวด้วยท่าทีนิ่งเฉย
เธอยื่นบุหรี่มาใส่ปากผม ผมสูบก่อนจะบดมันทิ้งไป
ผมโน้มตัวลงจุมพิตเธอช้าๆ ดวงตาของเราทั้งสองถูกปิดสนิท
ห้องเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบา เสียงปากและลิ้นของเราที่กำลังพลอดรักกันดังระงม
ที่ผ่านมาเราไม่เคยจูบกัน
สำหรับผม การจูบเป็นเสมือนการแลกเปลี่ยนความรู้สึกบางอย่าง
การจูบของผมไม่ได้เปนการแสดงความใคร่
ผมจะมอบจูบของผมให้กับคนที่สมควรจะได้รับมันเท่านั้น
และในคืนนี้ ผมตัดสินใจมอบให้’เธอ’
เธอผละตัวออกจากผมช้าๆ เราทั้งคู่ค่อยๆลืมตา
“ไหนคุณเคยบอกว่าเราจะไม่จูบกัน” เธอถาม
“ผมขอผิดคำพูดแล้วกัน”
เธอสวมกอดผม ใบหน้าของเธอแนบอกผม
เธออาจจะได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง
“ฉันจะแต่งงาน”
วินาทีนั้น เธออาจจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของผมอีกแล้ว
นี่นับเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในวันนี้
ผมไม่ตอบอะไรเธอ พยายามคิดว่าเธอคงล้มผมเล่น
เธอผละตัวออก ลงนั่งบนเตียง เปิดกระเป๋าพร้อมยื่นการ์ดแต่งงานมาให้ผม
เธอไม่ได้ล้อเล่น
ผมยิ้มกลบเกลื่อน “ยินดีด้วย ผมยินดีด้วยจริงๆ”
“เขาไม่รู้ว่าฉันเป็นกะหรี่” เธอหมายถึงว่าที่สามีของเธอ
เธอค่อยๆใช้ปลายนิ้วเรียวยาวลูบไล้ไปทั่วร่างกายผม
ร่างกายที่เธอสำรวจมาแล้วทุกซอกทุกมุม สำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
อาจจะไม่ดีในแง่ศีลธรรม เธอกำลังจะมีครอบครัว
คืนนั้นเราร่วมรักกันนับครั้งไม่ถ้วน ร่วมรักกันอย่างโหยกระหาย
ร่วมรักกันเหมือนว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีอยู่จริงสำหรับเรา
กลิ่นบุหรี่และคราบน้ำกามเปรอะเปื้อนอยู่ทั่วทุกซอกทุกมุม
วันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาเพื่อพบว่าเธอจากไปแล้ว
ผมคงไม่สามารถอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้
ผมอาจจะไปร่วมงานแต่งงานของเธอ เพราะเธอให้เกียรติมาเชื้อเชิญผมถึงบ้าน
อันที่จริง ผมก็ไม่แน่ใจนักหรอก ว่าเธอจะเดินทางไปเชื้อเชิญแขกคนอื่นของเธออีกกี่คน
การหลงรักกระหรี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่โรแมนติกสำหรับผู้ชาย และเป็นแนวทางเรื่องอีโรติก โรแมนติก ที่รับใช้ผู้อ่านมานับไม่ถ้วน และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผู้อ่านได้ตกลงไปสู่ห้วงฝันแบบนั้น