เปี๊ยก
1.
ตั้งแต่เปี๊ยกเกิดมา แม่ก็อิจฉาเปี๊ยกทันที
ใช่....ทันที ไม่ช้าไปกว่านั้น และคงไม่มีใครอิจฉาเปี๊ยกได้มากไปกว่าแม่ของเปี๊ยกเอง เหมือนๆ กับที่จะไม่มีใครรักเปี๊ยกได้มากไปกว่าแม่ของเปี๊ยกเองนั่นแหละ ก็ตอนนี้เปี๊ยกมันยังไม่รู้จักใครสักคนบนโลกใบนี้ นอกจากแม่ของมันคนเดียว แล้วใครหน้าไหนล่ะ จะมารักมันมากไปกว่าฉันได้
มันเหมือนกันมากเลยนะเปี๊ยก...ความรักกับความอิจฉาน่ะ เหมือนกันจนบางครั้งแม่นึกจริงจังไปว่ามีแต่ความอิจฉาเท่านั้นแหละที่อัดแน่นอยู่ในความรัก ไม่มีอะไรอื่นอีกแล้วซ่อนอยู่ในความรัก ไม่มีแม้กระทั่งความรักเองซุกตัวอยู่ในความรักนั่น
ความรักอาจจะมีแค่ความอิจฉาก็ได้นะเปี๊ยก
แบบนี้แล้ว....ความรักหลอกเรา หรือไม่เราก็หลอกกันเอง - ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด หึ! ถ้างั้น...ความอิจฉาของแม่ก็ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด...ด้วยรึเปล่า!
ช่างหัวมันเถอะ เอาเป็นว่าแม่ไม่หลอกเปี๊ยกของแม่ก็แล้วกัน แม่อิจฉาเปี๊ยกนะ ที่ดูเหมือนชีวิตจะรอต้อนรับการมาเกิดของเปี๊ยกในโลกเอียงๆ ใบนี้ การต้อนรับจากชีิวิตที่แม่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชาตินี้ ส่วนชาติหน้า...แม่ยังไม่รู้จักมัน แม่ขอข้ามไปก่อนนะ แม่ไม่มีแรงจะฟูมฟายล่วงหน้าไปถึงชาติหน้าของชีวิตตัวเองได้หรอก แค่ชีวิตในกองซากปรักหักพังของมันเองในชาตินี้...แม่ก็ฟูมฟายไม่หวาดไม่ไหวแล้วเปี๊ยก
เปี๊ยกเกิดมาหน้าตาน่ารักสมค่ากับการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่จากชีวิต โลกใบนี้จดจำเปี๊ยกแทบจะในทันทีที่เปลือกตาน้อยๆ ของเปี๊ยกขยับ เผยอยกและเปิดขึ้นเพื่อทักทายโลกทั้งใบ
"ต๊าย ลูกครึ่ง น่ารักแท้เล๊า" แม่ฉันตื่นเต้นผ่านสำเนียงท้องถิ่นของแม่ สำเนียงที่หล่นหลายระหว่างทางไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครเห็น เหลือบมามองกันอีกทีก็พบว่าไม่มีสำเนียงนั้นอยู่ในน้ำเสียงของฉันไปแล้ว ไม่มีใครสักคนในครอบครัวของเราเสียดายการหายไปของมัน...น้ำเสียงบ้านนอกนั่น ไม่ว่าแม่ฉัน หรือยาย หรือตัวฉันเอง เลิกเป็นบ้านนอกได้สักเรื่องหนึ่งก็ยังดี เพราะยังมีความบ้านนอกอีกหลายเรื่องที่คงไม่มีวันเลิก -เป็น- ได้ ต่อให้ไปชุบตัวอยู่กรุงเทพฯ นานเป็นปีๆ
"บ้านนอกก็คือบ้านนอกนะ"
แสงสีเสียงของเมืองรถไฟฟ้าบอกฉันมาแบบนั้น...ด้วยสำเนียงกรุงเทพฯ ของมัน
Comentários